[Fic YamaChii] เมื่อยูริกลายเป็น....
จิเนน ยูริ ผู้น่ารักจะกลายเป็นอะไรก็น่ารักทั้งนั้นแหละเนอะ
ผู้เข้าชมรวม
122
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เช้าที่แสนสดใส ในห้องๆหนึ่งมีร่างหนาและร่างบางนอนอยู่ แสงแดดที่ลอดผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามาแยงตา เรียกให้แพรขนตาหนาขยับเล็กน้อยก่อนจะเปิดขึ้น
“งืมๆ..แจ่บๆ” ร่างบางขยับพลิกตัวเมื่อรู้สึกถึงร่างหนาที่ลุกขึ้นนั่ง
ยามะจังที่ยังมึนๆอยู่ค่อยๆหันไปมองคนตัวเล็กที่นอนอยู่ข้างกาย เท่านั้นแหละ จากที่มึนๆเมาขี้ตาอยู่เมื่อกี้สร่างกันเลยทีเดียว ไม่ใช่ตกใจเรื่องที่เขากับจิเนนมานอนอยู่บนเตียงด้วยกันแบบนี้ เพราะเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นบ่อยแล้ว แต่ที่เขาตกใจก็คือ
.
.
.
.
.
.
.
คือ
.
.
.
.
.
เนินอกขาวๆนั่นรู้สึกมันนูนขึ้นมานิดๆอ่ะ ถึงมันจะนิดเดียวจนเหมือนมีเม็ดลูกเกดแปะอยู่บนไข่ดาวก็เถอะ แต่สำหรับเค้าสังเกตได้ไม่ยากเลย ไม่ผิดแน่ๆมันนูนขึ้นมาจริงๆไม่ใช่กล้ามเนื้อด้วย แถมพอสายตาเขาเลื่อนขึ้นมาดูใบหน้าหวานก็พบกับเส้นผมที่ยาวระต้นคอขับใบหน้าหวานให้ดูหวานยิ่งขึ้นไปอีก
“งืมมมม” ร่างเล็กรู้สึกเหมือนมีใครจ้องอยู่ก็ค่อยๆกระพิบตาเพื่อปรับแสง แล้วชันตัวลุกขึ้นมาดู
“มีไรหรอเรียวจัง” เสียงหวานหลุดออกมาจากริมฝีปากอมชมพูเล็กๆนั่น ขอย้ำว่าหวาน หวานจนไม่ใช่เสียงผู้ชายแน่ๆ ถึงปกติจะหวานอยู่แล้วก็เถอะ
“ยะ..ยะ..ยูริ ยูริใช่มั้ย”
“ถามอะไรแปลกๆนะเรียวจัง ก็ยูริน่ะสิ” ร่างเล็กนั่งจ้องเขาตากลมป๊อกอย่างกับหมางง แถมเป็นหมาพันธุ์ชิวาว่าซะด้วย
“อ่ะ…เอ่อ..นะ..นายเป็น..ผะ..ผู้หญิงหรอ” ยามะจังถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
“เรียวจังนี่ยังไงเนี่ย ก็เป็นผู้หญิงน่ะสิ เรียวจังเมาขี้ตาหรอ” แน่ะยังจะมาหาว่าเขาเมาขี้ตาอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย แต่แบบนี้ก็ไม่เลวนะ ถึงหน้าอกจะเล็กไปหน่อยแต่ไม่เกี่ยวกับปริมาณน้ำนมนี่ หึหึ
“เรียวจังคนอะไรทะลึ่งๆอยู่ใช่มั้ย หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ คนลามก” ทำไมเขารู้น่ะหรอ ก็เรียวจังเล่นจ้องหน้าอกเขาซะขนาดนั้น ไม่รู้ก็บ้าแล้ว
“เปล่าซักหน่อย” ไม่เนียนเลยนะเรียวจัง แน่ะยังมีเหล่มองอีก
“เรียวจังฉันหิวแล้วอ่า”
“ถ้างั้นเดี๋ยวผมทำให้กิน มีเกี๊ยวซ่าที่ยังไม่ทอดอยู่ในตู้เย็น กินมั้ย” ไม่รู้เขาจะถามทำไม เขาก็รู้อยู่แล้วว่ายูริชอบกินเกี๊ยวซ่าขนาดไหน นั่นไงตาแพรวพราวเชียว พยักหน้าหงึกหงักจนเขาเสียวว่าคอจะหลุดแทน
ร่างหนาลุกขึ้นจากเตียงแล้วลงไปข้างล่างในครัวเพื่อทำเกี๊ยวซ่า ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลยทุกคนหนีเขาไปเที่ยวกันหมด แต่ก็ดีนะเขาจะได้อยู่กับยูริกันแค่สองคน
หลังจากร่างสูง(สูงกว่ายูริน่ะนะ)ทำอาหารเสร็จร่างบางที่จัดการอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็ลงมาพอดี
“ฉันขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ”
“มากินด้วยกันก่อนสิเรียวจัง” ขอมางี้ก็ต้องตามใจแหละครับ ฟันยังไม่ได้แปรงเลยคร๊าบบบ
“อร่อยจังเลย เรียวจังเก่งจัง” ร่างเล็กยิ้มหวานแบบที่ใครเห็นแล้วต้องเคลิ้ม ผมชอบรอยยิ้มแบบนี้จัง เห็นกี่ทีก็ไม่เคยเบื่อ
หลังจากผมกับยูริทานอาหารเสร็จผมก็ขึ้นไปอาบน้ำ ส่วนยูริไปเปิดทีวีดู พอผมอาบน้ำเสร็จก็มานั่งดูทีวีกับยูริ วันนี้ทั้งวันผมกับยูริคลุกอยู่ด้วยกันทั้งวัน ดูทีวีบ้าง เล่นเกมบ้าง คุยกันสัพเพเหระบ้าง ตอนบ่ายๆไดจังโทรมาหาเหมือนจะอยู่กับอิโนะจังเพราะได้ยินเสียงอิโนะแทรกเข้ามาด้วย พอลองถามเรื่องยูริเป็นผู้หญิงหรอ ไดจังก็ทำเสียงงงๆแล้วตอบกลับมาว่า ก็เป็นผู้หญิงน่ะสิ หรือที่ผ่านมามันเป็นแค่ความฝันกันนะ พอใกล้ค่ำผมก็ผลัดกับยูริไปอาบน้ำแล้วก็ลงมาดูทีวีกันต่อ
นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆกดลงบนไหล่ พอหันไปดูก็เห็นยูริหลับไปแล้ว ผมจึงปิดทีวีก่อนจะอุ้มร่างบางขึ้นไปบนห้อง วางร่างบางลงบนเตียงนุ่มอย่างแผ่วเบา ผมลอบมองใบหน้าหวานที่หลับตาพริ้มอย่างน่ารัก ใบหน้าที่ทำให้ผมหลงได้ทุกครั้งที่มองมัน ใบหน้าของคนที่เอาหัวใจทั้งดวงของผมไปครอบครองไว้แต่เพียงผู้เดียว ร่างบางขยับตัวเล็กน้อยเหมือนจะหนาว ทำให้เสื้อนอนตัวใหญ่โคร่งของเขาที่เจ้าตัวใส่อยู่ไหลลงมาเผยให้เห็นไหล่ขาวที่ไม่ผอมแห้งจนเกินไปกำลังมีเนื้อมีหนังน่ากินประจักแก่สายตา
ยามะจังกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป จะลักหลับคนตัวเล็กตอนนี้คงจะไม่ดีเท่าไหร่ เขาไม่อยากให้เจ้าตัวตื่นเพราะเวลามีคนมาปลุกคนตัวเล็กให้ตื่นเจ้าตัวจะหงุดหงิดมิใช่น้อย ยามะจังจัดแจงห่มผ้าให้คนที่นอนอยู่ก่อนจะเดินไปปิดไฟแล้วมาล้มตัวลงนอนข้างคนตัวเล็กที่เหมือนจะหลับฝันไปสิบเรื่องแล้ว
เช่าตรู่ของอีกวัน วันนี้พวกเขามีงานถ่ายแบบกัน จึงต้องตื่นแต่เช้า ยามะจังตื่นขึ้นมาก่อนจะหันไปเพื่อเตรียมจะปลุกคนตัวเล็ก แล้วก็ต้องตกใจอีกรอบเมื่อพบว่า
.
.
.
.
ว่า
.
.
.
.
.
ร่างเล็กหายไป แต่กลับพบร่างเล็ก เล็กแบบว่าโคตรเล็ก เล็กมากๆประมาณสามสี่นิ้วได้ นอนขดอยู่บนเตียงแทนที่ที่ยูริเคยนอนอยู่ แถมยังเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้มีหัวสีเขียวเป็นหนามๆเหมือนกระบองเพชรแล้วมีดอกไม้สีชมพูอยู่ตรงกลาง ส่วนลำตัวมีสีเหลือง ดูคุ้นๆเหมือนเคยเห็นตัวแบบนี้ที่ไหนสักแห่ง นี่มันตัวบ้าอะไรวะเนี่ยยยยยยย
“เนง~~~~~” เหมือนไอตัวประหลาดจิ๋วนี่จะรู้สึกตัวตื่นแล้วแหะ
เจ้าตัวจิ๋วกลมปุ๊กลุกขึ้นมานั่งจ้องตาแบ๊วๆกับเขาก่อนจะอ้าปากเล็กๆนั่นออกกว้างแล้วร้องว่า “ซะโบเนง~~~~”
“ซะโบเนง~~~~~”
“ซะโบเนง~~~~~”
“ซะโบเนง~~~~~”
“ซะโบเนง~~~~~”
“ซะโบเนง~~~~~” มันจะร้องไปถึงไหนวะเนี่ย หรือว่ามันพยายามจะบอกชื่อของมัน ซะโบเนงงั้นหรอ ชื่อคุ้นๆแหะ อืมมมมมม
“เฮ้ยยยยยย หรือว่าจะเป็น… ไม่นะ ไม่ๆๆๆๆ” ไหงเป็นงี้ไปได้ จิเนนกลายเป็นซะโบเนงไปได้ยังไง เกิดอะไรขึ้น นี่มันบ้าอะไรเนี่ยเมื่อวานก็แล้ว วันนี้ก็เป็นอย่างงี้อีก แถมดูเหมือนไอตัวนี้จะพูดได้แค่ซะโบเนงซะด้วย
“ซะ..ซะ..ซะ..โบ?” เหมือนไอตัวเล็กมันจะกลัวที่อยู่ๆเค้าก็ตะโกนโวยวายขึ้นมา
“ซะ…ซะโบเนง งั้นหรอ” เอ้าลองเรียกดูหน่อยละกัน
“เน๊ง” เหมือนเจ้าตัวจะดีใจที่เขาเรียกชื่อ ตอบฉะฉานเสียงสูงเชียว ตานี่วิ้งวับอย่างกับเด็กได้ของเล่นเลย
“ฉันเรียวสุเกะนะ ไหนเรียกสิ เรียวสุเกะ” เหมือนสอบเด็กหัดพูดเลยแหะ
“โบเนงเนง” เจ้าตัวจิ๋วว่าตามพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“อะไรคือโบเนงเนงฟะ เอาเถอะช่างมันก่อน แล้วอย่างงี้จะทำไงดีล่ะเนี่ย ยังไงก็ไปทำงานก่อนละกัน จะได้ไปขอให้คนอื่นช่วยด้วย เนอะซะโบเนง” ยูริกลายเป็นแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบนะ
“เน๊ง” เจ้าตัวจิ๋วตอบอย่างร่าเริงก่อนจะพยายามปีนขึ้นมาบนตัวยามะจัง
ยามะจังเห็นอย่างงั้นเลยใช้มืออุ้มเจ้าตัวจิ๋วขึ้นไปวางบนไหล่ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปชำระร่างกายให้สะอาด แล้วก็จับเจ้าตัวจิ๋วนี่อาบน้ำด้วย
เมื่อถึงสตูดิโอถ่ายแบบยามะจังก็เดินเข้าไปภายในห้องรับรองก็พบไดจัง อิโนะจัง เคย์โตะ ยูโตะ ฮิคารุคุง ดูเหมือนยาบุคุงกับ ทาคาคิคุงจะมาสายสินะ
“จิเนนล่ะ” ไดจังถามออกมาเมื่อมองไม่เห็นคนที่น่าจะอยู่กับยามะจัง
“อยู่นี่” ยามะจังพูดพร้อมกับชี้ไปที่กระเป๋าเสื้อของตนเอง
“ห๊ะ? หมายความว่าไง จิเนนจะไปอยู่ในกระเป๋าเสื้อนายไปได้ยังไง เพี้ยนไปแล้วหรอหรือเมื่อคืนทำสงครามกันหนักเกินไป” คราวนี้คนพูดเป็นเจ้าโย่งยูโตะที่สูงที่สุดในจัมพ์ พร้อมกับเมมเบอร์คนอื่นๆที่ทำหน้างงๆ
“จะบ้าหรอ ฉันตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็เห็นจิเนนกลายเป็นแบบนี้ไปแล้วอ่ะ จะทำยังไงดี”
“เนง~~~~” เจ้าตัวจิ๋วขยับตัวยุกยิกในกระเป๋าเสื้อยามะจังก่อนจะลุกขึ้นยืนยืดตัวเขย่งสุดความสูงโผล่หัวออกมาจากกระเป๋ายามะจัง ย้ำว่าหัว หน้าไม่ได้โผล่มาด้วย เอาง่ายๆคือโผล่มาแค่ครึ่งหัวนั่นแหละ
“นั่นมันตัวอะไรน่ะ จิเนนกลายเป็นตัวอะไรน่ะ” อิโนะถามอย่างงงๆ
นั่นไง จำไม่ได้เหมือนเขาเลย 55555
“ซะโบเนงไงเฟร้ยยย ฉันอุตส่าห์วาดให้เป็นคาแรกเตอร์ให้พวกนายนะ ลืมกันได้ไง” ฮิคารุเอ่ยอย่างหงุดหงิดนิดๆ
เมื่อเจ้าตัวจิ๋วในกระเป๋าได้ยินคนเรียกชื่อตัวเองยิ่งอยากรู้อยากเห็นว่าข้างนอกกระเป๋ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยความสูงที่ไม่อำนวยเอาซะเลยเจ้าตัวจึงมองเห็นแค่ขอบของกระเป๋าเสื้อยามะจังเท่านั้น ซะโบเนงน้อยจึงเอามือเล็กๆเอื้อมไปจับขอบกระเป๋าเสื้อเอาไว้และดึงขอบกระเป๋าลงมาได้นิดหน่อยก่อนจะยกตัวเองขึ้นเพื่อนจะปีนออกไป แต่ด้วยความที่ว่ามันเป็นขอบกระเป๋าเสื้อมันไม่มีที่ให้ยืนแต่อย่างใด เจ้าตัวจิ๋วจึงหน้าทิ่มดิ่งลงพื้นอย่างรวดเร็วก่อนจะ…
“เฮ้ยยยยย” ทุกคนร้องออกมาพร้อมกันก่อนจะพยายามวิ่งเข้าไปรับซะโบเนงไว้
ตุบ ตึง โครมมมม
ต่างคนต่างวิ่งเข้ามาสะดุดกันบ้าง ชนกันบ้าง ล้มระเนะนาดกันจนเหมือนเป็นกองอะไรซักอย่าง แล้วเจ้าตัวจิ๋วก็ตกลงไปบนกองมนุษย์นุ่มนิ่มนั่นก่อนจะกลิ้งหลุนๆลงมาแปะบนพื้น
“เน๊งงง~~” เหมือนไอตัวจิ๋วจอมแสบนี่จะสนุกนะ
“ยู้หู ฮายยย~ ทาคาคิมาแล้วจ้า” ทาคาคิคุงเปิดประตูเข้ามาทักทายทุกคนโดยมีรุ่นพี่ยาบุยืนยิ้มอยู่ข้างหลัง ไม่มีทีท่าสำนึกว่าตัวเองมาสายกันเลยสักนิด
“เกิดอะไรขึ้นหรอ?” ทาคาคิคุงเอ่ยถามหลังจากเข้ามาเห็นสภาพของคนในห้องแล้ว
“เอ่อ..คือ เรื่องมันยาวน่ะ” ฮิคารุพูดก่อนจะลุกขึ้นมาจากกองมนุษย์แล้วดินไปหาทาคาคิกับยาบุเพื่อเล่าให้ฟัง เมื่อเล่าจบทั้งสองคนก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนยาบุจะเอ่ย
“ยังไงก็ถ่ายแบบกันไปก่อนละกันนะวันนี้ เพราะไหนๆก็มาแล้ว ส่วนเรื่องของจิเนนค่อยๆช่วยกันคิดกันไปนะ” ยามะจังได้ยินพี่ใหญ่พูดอย่างนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ยาบุจะดูเอื่อยๆแต่เวลาทุกคนอยู่ใกล้เขาทุกคนจะรู้สึกสบายใจ เขาเปรียบเสมือนเป็นคุณพ่อของพวกเราเลย
“งั้นก็ไปเตรียมตัวกันเถอะ” เคย์โตะ(มีบทพูดแล้วเย้)พูด ยามะจังหันไปพยักหน้าตอบรับก่อนจะก้มลงไปอุ้มซะโบเนงที่เริ่มวิ่งซนบนพื้นมาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อเหมือนเดิม ก่อนจะสั่งกำชับว่าห้ามออกมาจนกว่าเขาจะพาออกมาเอง ไม่อย่างงั้นถ้าเกิดถอดเสื้อทิ้งไว้แล้วเขาไม่อยู่แล้วเหล่าสต๊าฟเข้ามาเห็นคงจะตกใจกันวุ่นวายแน่ เขาไม่อยากให้เหล่าสต๊าฟรู้เรื่องนี้เพราะมันอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้
ทุกคนแต่งหน้าทำผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ไปถ่ายแบบจนถึงเที่ยงๆเหล่าสต๊าฟก็ปล่อยให้ทุกคนไปทานข้าว
ผมเป็นห่วงจิเนนจิ๋วจึงรีบตรงดิ่งมาที่ห้องแต่งตัวที่เขาถอดเสื้อทิ้งไว้ทันที ดูเหมือนทุกคนก็คงคิดเหมือนกันกับผมเพราะทุกคนก็ตามผมมาติดๆ ผมเปิดกระเป๋าเสื้อดูแต่ก็พบกับความว่างเปล่า ก็รู้อยู่หรอกว่าอยู่เฉยๆมันเบื่อ แต่แบบนี้ไม่ตลกเลยนะ หายไปไหนเนี่ย
“แย่แล้ว จิเนนหายไป” ยามะจังหันไปบอกเมมเบอร์อย่างตื่นตระหนก
“ใจเย็นๆนะยามะจัง ช่วยๆกันหาก่อน” ไดจังเอ่ยอย่างใจเย็น ก่อนที่เหล่าเมมเบอร์จะพยักหน้าเห็นด้วย
“ขอบใจมากนะ ทุกคน” ยามะซึ้งใจเหล่าเมมเบอร์จริงๆ
“ก็เพื่อนกันนี่” ไดจังตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มแป้นสไตล์ไดจังแก้มแตก ก่อนที่เหล่าเมมเบอร์จะพยักหน้าอีกครั้ง
ทุกคนเริ่มช่วยกันหาตามซอกตามมุมต่างๆ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ
“หรือว่าจะออกไปข้างนอก” ยูโตะออกความเห็น
“ไม่นะ ข้างนอกหรอ ถ้าโดนหมาไล่กัดล่ะ แล้วถ้าโดนรถเหยียบล่ะ แล้วไหนจะเดินตกท่ออีก ยิ่งซนๆไม่ดูทิศดูทางอยู่ด้วย ป่านนี้คงหลงทางร้องไห้ใหญ่แล้ว” ยามะจังหน้าซีดก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าเขียวจนนึกว่ายามะจังกลายร่างเป็นโคโระเซนเซย์แล้ว อีกสักพักนี่คงมีหน้าชมพูกับหน้าม่วงตามมามั้งเนี่ย
“ใจเย็นๆนะยามะจัง พวกเราออกไปหาข้างนอกกันเถอะ” ฮิคารุเอ่ยปลอบรุ่นน้องก่อนจะหันไปนำทัพเมมเบอร์ไปหาซะโบเนงข้างนอก เป็นแกนนำที่ดีเหมือนคุณแม่เลยจริงๆ
ทุกคนออกมาหาข้างนอกโดยเริ่มจากรอบๆสตูดิโอก่อน และค่อยขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ
“อ๊ะ นั่นไงเจอแล้ว” อิโนะชี้ไปที่สิ่งมีชีวิตตัวจิ๋วที่มีสภาพสกปรกมอมแมมเหมือนพึ่งตกท่อมา น้ำตาไหลพรากๆเพราะหลงทางโดยมีมือเล็กๆคอยเช็ดอยู่ ซึ่งกำลังวิ่งหนีหมาที่วิ่งไล่กัดอยู่อีกฟากของถนน และกำลังจะวิ่งมาฝั่งนี้ ก่อนจะมีรถบรรทุกคันใหญ่วิ่งมา เมื่อหมาที่วิ่งไล่เห็นอย่างงั้นจึงหยุดกึก แต่ซะโบเนงไม่หยุด เจ้าตัวเล็กกลัวหมาจนวิ่งทะล่าออกมาจากทางคนเดิน
“จิเนน!!!” ตัวไปไวกว่าปาก ยามะจังวิ่งออกไปคว้าเจ้าตัวจิ๋วมากอดไว้อย่างรวดเร็ว
ตุบ!!! ร่างหนาถูกรถบรรทุกชนกระเด็นออกไปกลิ้งสามตลบก่อนจะนิ่งไป เลือดค่อยๆไหลออกมาจากร่างหนาแผ่ออกมาเป็นวงกว้าง
“ยามะจัง!!!!” เหล่าเมมเบอร์ตะโกนเรียกอย่างตกใจก่อนจะกรูกันเข้าไปดูร่างหนาอย่างเป็นห่วง
เจ้าตัวจิ๋วในอ้อมกอดของยามะจังเริ่มจะรู้สึกตัวลืมตามองยามะจังแล้วร้องไห้จ้า กอดยามะจังแน่นเท่าที่แขนและมือจิ๋วๆนั่นจะทำได้
“เยียววว..ฮึก แง๊”
“เยียว…อึก..ชุ..ฮึก…ฮึก..เก้~~ แง๊ๆๆ” เจ้าตัวจิ๋วเรียกชื่อเขาด้วย เป็นประโยคแรกที่พูดได้นอกจากซะโบเนงเลยแหะถึงจะดูมั่วๆก็เถอะ ทำไมหนังตามันหนักอย่างงี้นะ ลืมไม่ขึ้นเลย เจ็บชะมัด ร่างกายก็รู้สึกหนักๆจนขยับไม่ไหว
เจ็บมาก
“…เกะ” เจ้าตัวจิ๋วเรียกเขาไม่หยุดเลย
“….สุเกะ” เรียกอีกแล้ว แต่ทำไมออกเสียงชัดจัง
“เรียวสุเกะ!!!!” เสียงมากอย่างเดียวไม่พอ ยามะจังรู้สึกถึงอะไรหนักๆกระแทกลงกลางท้อง จากที่ง่วงๆลืมตาไม่ขึ้นนี่ลืมตาตื่นพรึ่บเลย โคตรจุก
“โอ๊ยยย ทำอะไรเนี่ยยูริ” ผู้ถูกประทุษร้ายโวยวาย หลังจากโดนเจ้าตัวดีกระโดดทับเขา
“ก็นายไม่ยอมตื่นนี่” เจ้าตัวดียิ้มเผล่ก่อนจะลุกขึ้นจากตัวเขา เพราะเกรงว่าถ้านั่งนานกว่านี้ยามะจังคงขาดใจตาย
“อูยยย นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย นายคืนร่างเดิมแล้วหรอ” ยามะจังชันตัวขึ้นนั่งพิงข้างเตียง ดูเหมือนเขาจะนอนตกเตียงนะ
“อะไรของนาย ยังไม่ตื่นรึไง” จิเนนทำหน้างงๆ
“ก็นายกลายเป็นซะโบเนงไม่ใช่หรอ?”
“จะบ้าหรอ ผมเป็นคนนะ จะกลายเป็นซะโบเนงไปได้ยังไงเล่า”
“เอ๊ะ งั้นหรอ แล้ว..แล้วนายเป็นผู้หญิงรึเปล่า”
“พูดงี้หาเรื่องหรอเรียวสุเกะ” คนตัวเล็กขมวดคิ้วทำหน้าทมึงทึงเมื่อมีคนหาว่าเจ้าตัวเป็นผู้หญิง
“เปล่าๆๆ ไม่ใช่นะ คงฝันไปสินะ” ประโยคหลังยามะจังพึมพำกับตัวเอง
“แล้วมาทำอะไรหรอยูริ” ยามะจังถามอย่างสงสัย ก็ในเมื่อวันนี้เป็นวันหยุดนี่ แล้วยูริจะมาปลุกเขาแต่เช้าทำไม
“อ่าว ลืมซะงั้น ก็วันนี้นายนัดผมกับเคย์โตะไปเที่ยวด้วยกันไม่ใช่หรอ ผมก็เลยมาหา แต่แม่นายบอกว่านายยังไม่ตื่นผมก็เลยอาสามาปลุกให้ไง เขย่าเรียกก็แล้ว ถีบนายตกเตียงก็แล้ว ก็ยังไม่ตื่นสักที” แฟนใครเนี่ยโหดชะมัด เดี๋ยวนะ ถ้างั้นไอที่เจ็บโคตรๆตอนฝันนี่เป็นตอนที่เขาตกเตียงสินะ เอาเถอะ ถึงแม้จะโหดแต่ก็ยังดีกว่าเห็นเจ้าตัวเล็กร้องไห้เหมือนในฝันน่ะนะ
“แล้วเคย์โตะล่ะ” ยามะจังถามเพราะไม่เห็นอีกคนที่นัดมาด้วยเลย จริงๆก็อยากจะไปเที่ยวด้วยกันสองคนอยู่หรอก แต่สงสารเคย์โตะน่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครชวนเคย์โตะไปเที่ยวเลย
“เคย์โตะจะไปเอง บอกว่าจะรออยู่ที่นู่นน่ะ ไปอาบน้ำได้แล้ว เร็วๆด้วย” ยูริพยายามดึงยามะจังให้ลุกขึ้นแล้วดันให้ไปอาบน้ำ
“คร๊าบบๆ Honey” ยามะจังลุกขึ้นตามแรงฉุดแล้วหอมแก้มยูริฟอดใหญ่กอบเก็บความหอมกรุ่นยอมเช้า
“เจ้าบ้า” เจ้าตัวเล็กหน้าแดงอย่างน่ารัก
หลังจากยามะจังอาบน้ำเสร็จก็ไปเอารถออกมาจากโรงรถ ยูริก็เปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างๆ
“เรียวสุเกะๆ” ยูริหันมากวักมือเรียกให้เขาเอาหน้าเข้าไปใกล้เหมือนจะบอกอะไรสักอย่าง
“ผมรู้นะว่านายฝันอะไร ผมก็ฝันเหมือนกัน ผมกลัวมากเลยตอนที่นายโดนรถชน แต่ว่าตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะ อรุณสวัสดิ์นะเรียวสุเกะ” พูดจบคนตัวเล็กก็หอมเขาดังฟอด ยูริพูดเหมือนตอนนี้เป็นเช้าวันใหม่ที่สดใส หลังจากจบเรื่องแย่ๆในฝันเมื่อคืน ยูริเป็นคนที่ชอบแฝงความหมายต่างๆไว้ในคำพูด เป็นคนฉลาดพูดเลยล่ะ ต่อจากนี้จะไม่เป็นไรแล้วสินะ ถึงแม้ยูริจะกลายเป็นผู้หญิงแล้วน่ารักขึ้น กลายเป็นซะโบเนงแล้วไร้เดียงสา แล้วความจริงยูริเป็นผู้ชาย แต่ไม่ว่าร่างไหนๆ ไม่ว่ายูริจะเป็นอะไร เขาก็รักยูริอยู่ดี
“ทำตัวน่ารักขนาดนี้ ขอสักนิดนะ” ร่างหนาค่อยๆบรรจงแนบริมฝีปากกับร่างบาง ปากเล็กๆของร่างบางเผยอออกเล็กน้อยเพื่อที่จะให้ร่างหนาสอดลิ้นเข้ามาเก็บกวาดความหวานอุ่นๆได้ง่ายขึ้น จูบของยูริหวานเสมอ ทั้งหวานทั้งอบอุ่น ร่างหนาผละริมฝีปากออกเมื่อเริ่มเห็นว่าเจ้าตัวเล็กเริ่มหายใจไม่ออก
“ปะ..ไปได้แล้ว เดี๋ยวเคย์โตะรอนาน” เจ้าตัวเล็กหน้าแดงเรื่อพูดตะกุกตะกักอย่างเขินอาย
“ขออีกนิดน่า นิดเดียวเองนะ แค่นี้เคย์โตะรอได้อยู่แล้วน่า” ยามะจังไม่รอให้ร่างเล็กได้พูดพร่ำทำเพลงประกบริมฝีปากลงไปอีกครั้งนึงทันที
ทางด้านเคย์โตะที่รอมากว่าชั่วโมงครึ่ง เนื่องจากจำเวลานัดผิดมาเร็วไปหนึ่งชั่วโมง บวกกับยามะจังตื่นสาย
“เมื่อไหร่จะมากันล่ะเนี่ย เฮ้อออ” ช่างน่าสงสารแท้
____________________________________________________________________
เป็นเรื่องแรกที่แต่งเลย ไม่มีฉากNCนะคะ แต่งไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ อีกอย่างกลัวโดนหิ้ว ยังไงก็ขอฝากด้วยนะคะ
เพื่อรูปเราทำได้ 55555
ผลงานอื่นๆ ของ MoMochCha ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ MoMochCha
ความคิดเห็น